ป้อมผีเสื้อสมุทร

           เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์กับเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ  บุญนาค)  ก่อสร้างป้อม ๖ ป้อมเสร็จลงแล้ว (ป้อมประโคนชัย ป้อมนารายณ์ปราบศึก ป้อมปราการ ป้อมกายสิทธ์ ป้อมนาคราช และป้อมผีเสื้อสมุทร) พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชดำริว่า  การที่พระองค์ได้สละพระราชทรัพย์ครั้งนี้ก็เพื่อสวัสดิภาพของชาติและพระศาสนา   จึงควรจักได้มีอนุสาวรีย์ไว้ให้ปรากฎพระเกียรติยศสืบไป  ทรงเห็นเกาะหาดทรายอยู่ท้ายป้อมผีเสื้อสมุทร (ป้อมผีเสื้อสมุทรเป็นเกาะกลางน้ำ)  เหมาะแก่การที่จะประดิษฐานพระเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ดังนั้นจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์กับเจ้าพระยาพระคลัง  เป็นผู้อำนวยการสร้าง  รับสั่งให้กรมพระราชวังบวรสถานมงคลมหาศักดิพลเสพกับพระยาราชสงคราม  จัดเขียนแผนผังรูปพระเจดีย์ถวาย  เมื่อทรงแก้ไขจนพอพระราชหฤทัยแล้ว  จึงทรงเฉลิมพระนามว่า “พระสมุทรเจดีย์”ทั้งนี้คงจะมีพระราชประสงค์ให้เป็นคู่พระบารมีและอยู่คู่กับเมืองสมุทรปราการ

           ในจำนวนป้อมทั้ง ๖ ป้อมดังกล่าวมีป้อมนาคราชที่ยังเหลืออยู่บ้าง  ส่วนป้อมผีเสื้อสมุทรยังเหลือสภาพสมบูรณ์ที่สุดป้อมเดียว  เหตุนี้ด้วยเป็นเพราะป้อมผีเสื้อสมุทรเป็นเกาะอยู่กลางน้ำยากลำบากต่อการรุกล้ำทำลาย

           ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างป้อมพระจุลจอมเกล้า  ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ซื้อปืนใหญ่ที่ทันสมัยคือ ปืนใหญ่อาร์มสตองนั้น  ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ซื้อทั้งสิ้น ๑๐ กระบอก  ติดตั้งไว้ที่ป้อมพระจุลฯ จำนว ๗ กระบอก  ส่วนอีก  ๓ กระบอกนำมาติดตั้งไว้ที่ป้อมผีเสื่อสมุทรนี้   ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จได้ ๒ เดือนเศษก็เกิดเหตุการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ขึ้น

  ป้อมผีเสื้อสมุทร  มองจากแม่น้ำเจ้าพระยา
  บริเวณบนเชิงเทินป้อมผีเสื้อสมุทร
  อาคารที่พัก (ทหาร)

           ป้อมผีเสื้อตั้งอยู่ตรงข้ามกับองค์พระสมุทรเจดีย์   ปัจจุบันยังใช้เป็นประโยชน์ในกิจการของกองทัพเรือเคยใช้เป็นคลังเก็บวัตถุระเบิดและดอกไม้เพลิง   ปัจจุบันเป็นที่ทำการของกองเรือเล็ก   กำแพงป้อมที่ถูกน้ำทะเลเซาะพัง  ได้บูรณะซ่อมแซมจนมีสภาพดีโดยกรมศิลปากรร่วมกับกองทัพเรือ  บริเวณรอบๆ ป้อมผีเสื้อสมุทรเป็นที่อยู่ของฝูงค้างคาวแม่ไก่จำนวนนับหมื่นตัว
กลับ